การรับประทานอาหารให้เหมาะสมตามช่วงวัย โดยเฉพาะลูกน้อยในวัยประถมนั้น เป็นเด็กในวัยเรียน เริ่มมีสังคมและมีกิจกรรมภายนอกมากมาย อาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้ลูกมีพลังกายพลังใจพร้อมสำหรับทุกสิ่ง
ในแต่ละวันคุณแม่ควรให้ลูกทานอาหารมีประโยชน์ มีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ได้แก่
คาร์โบไฮเดรต ได้จากข้าว หรืออาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล เช่น ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน เผือก มัน ขนมหวาน เป็นต้น จะช่วยให้พลังงานและความอบอุ่น
โปรตีน พบในเนื้อสัตว์ ไข่ นม หรืออาหารที่ทำจากถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว เป็นต้น จะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
ไขมันจากพืชและสัตว์ จะช่วยให้พลังงานและความอบอุ่น
เกลือแร่และวิตามินในผัก ผลไม้ และธัญพืช จะช่วยให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ และมีใยอาหารช่วยให้มีระบบขับถ่ายที่ดีเป็นปกติ ทั้งนี้ควรจะให้ลูกได้ดื่มนมเป็นประจำ อาจจะเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการโดยกินกับอาหารประเภทซีเรียล ซึ่งเป็นธัญพืชเต็มเมล็ดกรอบอร่อย เลือกรสชาติที่เด็กๆชอบ เช่น รสช็อกโกแลตชิพ คุกกี้ รูปร่างเหมือนคุกกี้ช็อกโกแลต อร่อยน่าทาน จะช่วยให้ลูกตัวสูงสมส่วนและได้รับแร่ธาตุอย่างเพียงพอ
อาหารทุกมื้อสำคัญต่อลูกในวัยประถมนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมื้อเช้า อย่าให้ลูกขาดอาหารเช้าหรือดื่มเพียงแค่นมหรือน้ำผลไม้เพียงแก้วเดียว เพราะลูกอาจไม่มีพลังงานเพียงพอสำหรับการเรียนในภาคเช้าได้
"วัยรุ่น” วัยแห่งการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจ
คนที่เป็นพ่อและแม่ต้องใส่ใจและให้เวลากับลูกมากเป็นพิเศษ
นอกจากการพูดคุยกับลูกบ่อยๆ เพื่อรับรู้ความคิดของลูกแล้ว
การใส่ใจเรื่องอาหารการกินและการรักษาสุขภาพของลูกวัยนี้ก็เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
เพื่อเป็นการสร้างเสริมอารมณ์และพัฒนาการในด้านที่ดีให้แก่ลูก
วันนี้เราจะเริ่มว่ากันตั้งแต่วิธีการดูแลลูกวัยรุ่น ไปจนถึงการจัดหาอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของลูก เน้นความชอบและความเหมาะสำหรับวัยนี้…มีเวลาพูดคุยกับลูกวัยรุ่นให้มาก เป็นที่รู้กันอยู่ว่าสภาพแวดล้อมทางสังคมในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เมื่อลูกย่างเข้าสู่วัยรุ่นซึ่งไม่ใช่เด็กเล็กๆอีกต่อไป พวกเขาเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น อาจเข้าใจอะไรผิดๆได้หากไม่ได้รับการดูแลพูดคุยจากพ่อและแม่ พ่อและแม่ต้องรับฟังความคิดเห็นของลูกให้มากขึ้น และทำตัวเป็นที่ปรึกษาที่ดีคอยชี้แนวทางที่ถูกที่ควรให้ลูก
เปิดโอกาสให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง ให้ลูกมีอิสระในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ เพื่อให้ลูกมีความรับผิดชอบกับการตัดสินใจของตัวเอง หากเกิดข้อขัดแย้งใดๆ พ่อแม่ควรใช้เหตุผลอย่างละมุนละม่อม ไม่ควรบังคับ ดุด่า และทำให้ลูกได้อาย ส่งเสริมให้ลูกใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เช่นศึกษาหาความรู้พิเศษ ทำงาน เล่นกีฬา เล่นดนตรี ช่วยงานบ้าน ดูแลครอบครัว หรือร่วมกิจกรรมชุมชน เพื่อลูกจะได้ไม่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องไม่ดีอื่นๆ
ดูแลเรื่องอาหารการกินให้เหมาะสมกับวัย ในระยะนี้ ร่างกายต้องการสารอาหารในการสร้างเซลล์ต่างๆ เช่น กระดูกและฟัน ต่อมต่างๆในร่างกายเริ่มมีการทำงานหนักขึ้น จึงต้องให้อาหารที่เพียงพอเพื่อการเจริญเติบโตที่เต็มที่ อาหารหลักๆที่เด็กวัยรุ่นต้องการมีดังต่อไปนี้1. นม ควรดื่มทุกวันๆละ 1 แก้วเพื่อเติมแคลเซียม ให้กับกระดูกและฟัน เตรียมพร้อมสำหรับวัยแห่งการเจริญเติบโต2. ไข่ ควรทานวันละ 1 ฟอง เพราะให้โปรตีน เหล็ก และวิตามินเอ3. เนื้อสัตว์ต่างๆ เพื่อให้ได้ธาตุเหล็ก และสังกะสี ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและการเจริญเติบโตของร่างกาย ควรเลือกให้หลากหลาย และเน้นเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน เนื้อปลา4. ถั่วเมล็ดแห้ง เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเพราะมีโปรตีนสูง แต่ไม่มีโคเลสเตอรอล5. ผัก จัดให้หลากสี อย่างน้อยวันละ 5 ทัพพี เพื่อให้ได้รับใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่หลากหลาย6. ผลไม้ ตบท้ายหลังมื้ออาหารเป็นประจำ ด้วยผลไม้ตามฤดูกาลที่น้ำตาลน้อย เช่น ฝรั่ง7. ข้าว กินข้าวเป็นหลัก สับเปลี่ยนด้วยอาหารประเภทแป้งอื่นๆ เช่น ข้าวเหนียว บะหมี่ ข้าวโพด เผือก มัน ที่สำคัญควรเลือกประเภทขัดสีน้อยเพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่8. ไขมัน ควรกินแต่น้อย หรือเลือกอาหารไขมันต่ำเป็นประจำ โดยเฉพาะวัยรุ่นที่มีแนวโน้มที่จะมี น้ำหนักเกิน9. อาหารว่าง ประเภทที่มีรสชาติถูกใจวัยรุ่น น่าจะเป็นพวกไอศกรีมโคนเวเฟอร์กรอบอร่อย ที่ทั้งหวานมันและเย็นชื่นใจ ยิ่งมีซอสช็อกโกแล็ต หรือซอสสตรอเบอร์รี่ผสมด้วยแล้วยิ่งเป็นที่โปรดปรานของเด็กวัยนี้เป็นอย่างมาก
วันนี้เราจะเริ่มว่ากันตั้งแต่วิธีการดูแลลูกวัยรุ่น ไปจนถึงการจัดหาอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของลูก เน้นความชอบและความเหมาะสำหรับวัยนี้…มีเวลาพูดคุยกับลูกวัยรุ่นให้มาก เป็นที่รู้กันอยู่ว่าสภาพแวดล้อมทางสังคมในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เมื่อลูกย่างเข้าสู่วัยรุ่นซึ่งไม่ใช่เด็กเล็กๆอีกต่อไป พวกเขาเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น อาจเข้าใจอะไรผิดๆได้หากไม่ได้รับการดูแลพูดคุยจากพ่อและแม่ พ่อและแม่ต้องรับฟังความคิดเห็นของลูกให้มากขึ้น และทำตัวเป็นที่ปรึกษาที่ดีคอยชี้แนวทางที่ถูกที่ควรให้ลูก
เปิดโอกาสให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง ให้ลูกมีอิสระในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ เพื่อให้ลูกมีความรับผิดชอบกับการตัดสินใจของตัวเอง หากเกิดข้อขัดแย้งใดๆ พ่อแม่ควรใช้เหตุผลอย่างละมุนละม่อม ไม่ควรบังคับ ดุด่า และทำให้ลูกได้อาย ส่งเสริมให้ลูกใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เช่นศึกษาหาความรู้พิเศษ ทำงาน เล่นกีฬา เล่นดนตรี ช่วยงานบ้าน ดูแลครอบครัว หรือร่วมกิจกรรมชุมชน เพื่อลูกจะได้ไม่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องไม่ดีอื่นๆ
ดูแลเรื่องอาหารการกินให้เหมาะสมกับวัย ในระยะนี้ ร่างกายต้องการสารอาหารในการสร้างเซลล์ต่างๆ เช่น กระดูกและฟัน ต่อมต่างๆในร่างกายเริ่มมีการทำงานหนักขึ้น จึงต้องให้อาหารที่เพียงพอเพื่อการเจริญเติบโตที่เต็มที่ อาหารหลักๆที่เด็กวัยรุ่นต้องการมีดังต่อไปนี้1. นม ควรดื่มทุกวันๆละ 1 แก้วเพื่อเติมแคลเซียม ให้กับกระดูกและฟัน เตรียมพร้อมสำหรับวัยแห่งการเจริญเติบโต2. ไข่ ควรทานวันละ 1 ฟอง เพราะให้โปรตีน เหล็ก และวิตามินเอ3. เนื้อสัตว์ต่างๆ เพื่อให้ได้ธาตุเหล็ก และสังกะสี ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและการเจริญเติบโตของร่างกาย ควรเลือกให้หลากหลาย และเน้นเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน เนื้อปลา4. ถั่วเมล็ดแห้ง เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเพราะมีโปรตีนสูง แต่ไม่มีโคเลสเตอรอล5. ผัก จัดให้หลากสี อย่างน้อยวันละ 5 ทัพพี เพื่อให้ได้รับใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่หลากหลาย6. ผลไม้ ตบท้ายหลังมื้ออาหารเป็นประจำ ด้วยผลไม้ตามฤดูกาลที่น้ำตาลน้อย เช่น ฝรั่ง7. ข้าว กินข้าวเป็นหลัก สับเปลี่ยนด้วยอาหารประเภทแป้งอื่นๆ เช่น ข้าวเหนียว บะหมี่ ข้าวโพด เผือก มัน ที่สำคัญควรเลือกประเภทขัดสีน้อยเพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่8. ไขมัน ควรกินแต่น้อย หรือเลือกอาหารไขมันต่ำเป็นประจำ โดยเฉพาะวัยรุ่นที่มีแนวโน้มที่จะมี น้ำหนักเกิน9. อาหารว่าง ประเภทที่มีรสชาติถูกใจวัยรุ่น น่าจะเป็นพวกไอศกรีมโคนเวเฟอร์กรอบอร่อย ที่ทั้งหวานมันและเย็นชื่นใจ ยิ่งมีซอสช็อกโกแล็ต หรือซอสสตรอเบอร์รี่ผสมด้วยแล้วยิ่งเป็นที่โปรดปรานของเด็กวัยนี้เป็นอย่างมาก
สำหรับคุณๆ
ที่มีคุณพ่อคุณแม่ผู้สูงวัย คงเข้าใจกันดีว่า
ท่านมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก
การใกล้ชิดและให้ความสำคัญท่านนั้น
เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ท่านเป็นคนที่มีสุขภาพจิตที่ดีเช่นกัน
การดูแลเรื่องอาหารการกินก็สำคัญ มีรายละเอียดที่ต้องใส่ใจ
เพื่อให้ท่านมีสุขภาพกายที่แข็งแรงและอยู่กับเราไปนานๆ
การเลือกอาหาร วัยนี้ร่างกายต้องการพลังงานน้อยลงเนื่องจากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และประสิทธิภาพของระบบการเผาผลาญที่ลดลง จึงควรลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาลและไขมัน เปลี่ยนไปเน้นโปรตีนที่ย่อยง่ายเช่น เนื้อปลา หรือเต้าหู้ และเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุที่ผู้สูงอายุมักขาด ได้แก่ แคลเซียม วิตามินเอ และวิตามินบี 2 ด้วยการกินนมไขมันต่ำ ธัญพืชขัดสีน้อย ผักผลไม้หลากสี คุณควรเตรียมอาหารให้ท่านโดยใช้การนึ่ง ต้ม ตุ๋น เพื่อช่วยให้อาหารนิ่ม รับประทานง่ายและยังเป็นวิธีที่ช่วยลดปริมาณไขมันจากการผัดหรือทอดได้ หากท่านโปรดปรานเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ โกโก้ ควรเลือกเติมครีมเทียมประเภท low fat และไม่มีโคเลสเตอรอล
การออกกำลังกาย หากท่านไม่มีโรคประจำตัว ขอแนะนำให้ชวนท่านออกกำลังกายแบบแอโรบิกสัก 30 นาทีต่อครั้ง ทำให้ได้สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง จะเกิดประโยชน์ต่อหัวใจและหลอดเลือดเป็นอย่างมาก โดยการออกกำลังกายนั้นจะต้องเริ่มจากช้าๆ ด้วยการยืดเส้นยืดสายก่อน แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มความหนักขึ้นจนถึงระดับที่ต้องการ ทำต่อเนื่องจนถึงเวลาที่กำหนด แล้วจึงค่อยๆช้าลงๆและหยุด เพื่อให้ร่างกายและการทำงานของหัวใจได้ปรับตัว
รับอากาศบริสุทธิ์ พาท่านไปเดินเล่นนั่งเล่นในสวนสาธารณะบ้าง หรือพาท่านไปท่องเที่ยวสถานที่ธรรมชาติต่างๆ บ้าง ปรับภูมิทัศน์แวดล้อมภายในบ้านให้ปลอดโปร่ง สะอาด และอากาศถ่ายเทสะดวก เช่นการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น ปูสนามหญ้าให้ท่านเดินเท้าเปล่าบนหญ้านุ่มๆ เก็บสิ่งปฏิกูลต่างๆ ให้มิดชิด ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ช่วยป้องกันอาการภูมิแพ้และหอบหืดได้
หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม เช่นการซื้อยากินเอง การใช้ยาเก่าเก็บมารักษาอาการที่เกิดขึ้นใหม่ หรือการรับยาจากผู้อื่นมาใช้ เนื่องจากผู้สูงวัยจะมีประสิทธิภาพการทำงานของตับและไตลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดพิษจากยา หรือผลข้างเคียงที่อาจมีแนวโน้มรุนแรงมากกว่าปกติ ฉะนั้นการใช้ยาของท่านทุกครั้ง ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำจากแพทย์จะดีที่สุด
ตรวจสุขภาพประจำปี แนะนำให้คุณพาท่านไปตรวจร่างกายประจำทุกปี หรืออย่างน้อยทุก 3 ปี เพื่อให้แพทย์จวินิจฉัยปัจจัยเสี่ยงต่างๆ หรือแนวโน้มของอาการต่างๆ เพื่อให้สามารถป้องกันโรคได้ล่วงหน้า และสามารถดูแลสุขภาพของท่านได้อย่างเหมาะสม
การเลือกอาหาร วัยนี้ร่างกายต้องการพลังงานน้อยลงเนื่องจากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และประสิทธิภาพของระบบการเผาผลาญที่ลดลง จึงควรลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาลและไขมัน เปลี่ยนไปเน้นโปรตีนที่ย่อยง่ายเช่น เนื้อปลา หรือเต้าหู้ และเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุที่ผู้สูงอายุมักขาด ได้แก่ แคลเซียม วิตามินเอ และวิตามินบี 2 ด้วยการกินนมไขมันต่ำ ธัญพืชขัดสีน้อย ผักผลไม้หลากสี คุณควรเตรียมอาหารให้ท่านโดยใช้การนึ่ง ต้ม ตุ๋น เพื่อช่วยให้อาหารนิ่ม รับประทานง่ายและยังเป็นวิธีที่ช่วยลดปริมาณไขมันจากการผัดหรือทอดได้ หากท่านโปรดปรานเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ โกโก้ ควรเลือกเติมครีมเทียมประเภท low fat และไม่มีโคเลสเตอรอล
การออกกำลังกาย หากท่านไม่มีโรคประจำตัว ขอแนะนำให้ชวนท่านออกกำลังกายแบบแอโรบิกสัก 30 นาทีต่อครั้ง ทำให้ได้สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง จะเกิดประโยชน์ต่อหัวใจและหลอดเลือดเป็นอย่างมาก โดยการออกกำลังกายนั้นจะต้องเริ่มจากช้าๆ ด้วยการยืดเส้นยืดสายก่อน แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มความหนักขึ้นจนถึงระดับที่ต้องการ ทำต่อเนื่องจนถึงเวลาที่กำหนด แล้วจึงค่อยๆช้าลงๆและหยุด เพื่อให้ร่างกายและการทำงานของหัวใจได้ปรับตัว
รับอากาศบริสุทธิ์ พาท่านไปเดินเล่นนั่งเล่นในสวนสาธารณะบ้าง หรือพาท่านไปท่องเที่ยวสถานที่ธรรมชาติต่างๆ บ้าง ปรับภูมิทัศน์แวดล้อมภายในบ้านให้ปลอดโปร่ง สะอาด และอากาศถ่ายเทสะดวก เช่นการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น ปูสนามหญ้าให้ท่านเดินเท้าเปล่าบนหญ้านุ่มๆ เก็บสิ่งปฏิกูลต่างๆ ให้มิดชิด ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ช่วยป้องกันอาการภูมิแพ้และหอบหืดได้
หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม เช่นการซื้อยากินเอง การใช้ยาเก่าเก็บมารักษาอาการที่เกิดขึ้นใหม่ หรือการรับยาจากผู้อื่นมาใช้ เนื่องจากผู้สูงวัยจะมีประสิทธิภาพการทำงานของตับและไตลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดพิษจากยา หรือผลข้างเคียงที่อาจมีแนวโน้มรุนแรงมากกว่าปกติ ฉะนั้นการใช้ยาของท่านทุกครั้ง ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำจากแพทย์จะดีที่สุด
ตรวจสุขภาพประจำปี แนะนำให้คุณพาท่านไปตรวจร่างกายประจำทุกปี หรืออย่างน้อยทุก 3 ปี เพื่อให้แพทย์จวินิจฉัยปัจจัยเสี่ยงต่างๆ หรือแนวโน้มของอาการต่างๆ เพื่อให้สามารถป้องกันโรคได้ล่วงหน้า และสามารถดูแลสุขภาพของท่านได้อย่างเหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น